กนอ.ไฟเขียวตั้งนิคมฯใหม่ 2 แห่งพื้นที่อีอีซี สร้างมูลค่าลงทุน 7 หมื่นลบ. จ้างงานเฉียด 2 หมื่นคน
น.ส.สมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยถึงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมใหม่ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกนอ. มีมติอนุมัติจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมใหม่ 2 แห่ง ในรูปแบบของนิคมอุตสาหกรรมร่วมดำเนินงานกับ กนอ.พื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เป็นการเพิ่มพื้นที่เพื่อรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมเป้าหมาย ทั้งเอส-เคิร์ฟ) และนิว เอส-เคิร์ฟ ตอบสนองนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ที่มีศักยภาพตามยุทธศาสตร์ของประเทศ โดยที่เอกชนเป็น ผู้ลงทุน พัฒนา และให้บริการระบบสาธารณูปโภค รวมพื้นที่ 2 โครงการ ประมาณ 2,806 ไร่
“หลังเปิดดำเนินการทั้ง 2 โครงการแล้ว คาดว่า ก่อให้เกิดมูลค่าการลงทุนในประเทศประมาณ 76,897 ล้านบาท และเกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้นประมาณ 19,224 คน เมื่อพิจารณาในภาพรวมของอุตสาหกรรมเป้าหมายแล้ว คาดว่าจะทำให้เกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในพื้นที่เห็นได้จากตัวเลขการจ้างงาน ขานรับกับนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลและกระทรวงอุตสาหกรรมที่ต้องการให้มีสร้างงานเพิ่มในชุมชนท้องถิ่น และกระจายรายได้สู่ภูมิภาค”
สำหรับโครงการแรก เป็นการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมโรจนะหนองใหญ่ ต.ห้างสูง อ.หนองใหญ่ และต.หนองไผ่แก้ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี พื้นที่ประมาณ 1,987 ไร่ ดำเนินงานร่วมกับ บมจ.สวนอุตสาหกรรมโรจนะ โดยพื้นที่ตั้งของโครงการอยู่ห่างจากท่าเรือแหลมฉบังและท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดไม่ถึง 100 กิโลเมตร(กม.) และห่างจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 137กม. หลังจากเปิดดำเนินการแล้วจะก่อให้เกิดมูลค่าการลงทุนประมาณ 60,057 ล้านบาท และเกิดการจ้างแรงงานเพิ่มขึ้นประมาณ 15,014 คน ในกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและชิ้นส่วน อุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ อุตสาหกรรมเกี่ยวกับการเกษตร อุตสาหกรรมเบาและอุปกรณ์ทางการแพทย์และเครื่องประดับ อุตสาหกรรมบริการ เช่น คลังสินค้า โลจิสติกส์ การวิจัยและพัฒนา และกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับการส่งเสริมในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)
ส่วนโครงการ 2 เป็นการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมเอ็กโกระยอง ต.ห้วยโป่ง อ.เมือง จ.ระยอง พื้นที่ประมาณ 621 ไร่ เป็นการร่วมดำเนินงานกับ บมจ.ผลิตไฟฟ้า โดยพื้นที่โครงการด้านหน้าอยู่ติดกับถนนทางหลวงแผ่นดินสายมาบตาพุด – มาบข่า ห่างจากท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด 12 กก. สนามบินอู่ตะเภา 28 กก. ท่าเรือแหลมฉบัง 50 กก. และห่างจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 140 กก. แบ่งการจัดสรรพื้นที่ออกเป็นพื้นที่เขตอุตสาหกรรมทั่วไป 421 ไร่ และพื้นที่สาธารณูปโภคและแนวกันชนประมาณ 200 ไร่ คาดว่าจะใช้ระยะเวลาพัฒนาพื้นที่และระบบสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวกและเปิดให้บริการได้ภายใน 2 ปี ทั้งนี้ เมื่อเปิดดำเนินการแล้วจะก่อให้เกิดมูลค่าการลงทุนประมาณ 16,840 ล้านบาท เกิดการจ้างงานเพิ่มประมาณ 4,210 คน
ที่มา : dailynews.co.th