ดัชนีหุ้นไทย วันที่ 24 ม.ค.61 ปิดที่ 1,838.96 จุด เพิ่มขึ้น 7.18 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 60,453.92 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 232.43 ล้านบาท
หุ้นที่ซื้อขายสูงสุด TRUE ปิด 6.75 บาท บวก 0.25 บาท, KBANK ปิด 226 บาท ลบ 1 บาท, PTTGC ปิด 98.25 บาท ลบ 1.50 บาท, AOT ปิด 70.25 บาท บวก 0.50 บาท และ PTTEP ปิดที่ 117.50 บาท บวก 0.50 บาท
ตลาดแกว่งตัวในทิศทางขาขึ้นได้ต่อเนื่อง จากอานิสงส์ราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นในระดับสูง ประกอบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่ยังคงอ่อนค่าลง กระตุ้นให้เงินทุนไหลเข้าตลาดหุ้นในภูมิภาครวมทั้งไทย
บล.เอเซียพลัส วิเคราะห์มาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ รอบนี้สินค้าที่โดนคือ แผงโซลาร์เซลล์ (Solar Panel) กับเครื่องซักผ้า โดยสหรัฐฯมีการปรับอัตราการเก็บภาษีนำเข้าแผงโซลาร์เซลล์ โดยปีแรกคิดในอัตรา 30%, ปีที่ 2 คิด 25%, ปีที่ 3 คิด 20% และปีที่ 4 คิดในอัตรา 15% จากปัจจุบันไม่เสียภาษี
ส่วนเครื่องซักผ้าเก็บภาษีปีที่ 1-3 ในอัตรา 20%, 18%, 16% ตามลำดับ สำหรับการนำเข้า 1.2 ล้านเครื่องแรก หากเกินจำนวนนี้ คิดในอัตรา 50%, 45%, 40% จากเดิมที่เก็บภาษีอัตราเดียว 1.4%
แต่ละปี สหรัฐฯนำเข้าแผงโซลาร์เซลล์จากทั่วโลก มูลค่า 13.3 พันล้านเหรียญ และส่วนใหญ่นำเข้าจากประเทศในเอเชีย โดยมาเลเซียมากสุดราว 36% ของยอดนำเข้าโซลาร์เซลล์ของสหรัฐฯ, เกาหลีใต้ 21%, เวียดนาม 9.1%, ไทย 9% โดยของไทยนั้นมูลค่าส่งออกไปสหรัฐฯ ราว 421.1 ล้านเหรียญ คิดเป็นผลกระทบราว 0.2% ของมูลค่าการส่งออกรวมของไทย ผู้ส่งออกที่จะได้รับผลกระทบคือ SOLAR และ SPCG
ขณะที่เครื่องซักผ้า สหรัฐฯนำเข้าราว 1,710 ล้านเหรียญจากทั่วโลก โดยเวียดนามมากสุดราว 31.4%, ไทย 22.8%, เกาหลีใต้ 14.8% โดยไทยนั้นส่งออกเครื่องซักผ้าไปสหรัฐฯ มูลค่า 518.2 ล้านเหรียญต่อปี จึงกระทบราว 0.21% ของยอดส่งออกรวม บริษัทในตลาดหุ้นที่กระทบคือ KYE
โดยภาพรวมทำให้ต้นทุนการส่งออกของสินค้าดังกล่าวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังกระทบจากเงินบาทที่แข็งค่าต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ทำให้ประสิทธิภาพการทำกำไรของผู้ประกอบการส่งออกลดลง เป็น sentiment เชิงลบ!!
อินเด็กซ์ 51