นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยถึงกรณีเฟซบุ๊คเเตรียมออกสกุลเงินดิจิทัลลิบรามาใช้ว่า ตอนนี้ประเทศไทยมีกฎหมาย พ.ร.ก.ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แล้ว ซึ่งต้องรอ ก.ล.ต. พิจารณาหากลิบราเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล ก็สามารถเรียกเก็บภาษีเงินได้จากกำไรค้าขายสกุลเงิน 15%
นอกจากนี้กรมสรรพากรจะเสนอให้รัฐบาลใหม่เดินหน้า ร่างพ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร ที่กำหนดให้มีการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากผู้ประกอบการธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (อีบิสซิเนส) ในต่างประเทศ โดยกำหนดให้ผู้ให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์และดิจิทัลแพลตฟอร์มในต่างประเทศ ที่มีรายได้จากการให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทยเกินกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี ต้องมาลงทะเบียนเสียภาษีมูลค่าเพิ่มกับกรมสรรพากร โดยกฎหมายดังกล่าวได้ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นที่เรียบร้อย หากรัฐบาลใหม่ยืนยัน ก็สามารถส่งให้ครม.เห็นชอบ ส่งเรื่องต่อให้สภาผู้เแทนราษฎรพิจารณาเป็นกฎหมายบังคับใช้ต่อไป
“ที่ผ่านมากรมสรรพากรเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากผู้ประกอบการที่จดทะเบียนในต่างประเทศ แต่มีแพลตฟอร์มให้บริการในประเทศไทย เช่น การให้ดาวโหลดหนัง เพลง เกมส์ หรือ แพลตฟอร์มให้บริการอื่นๆ ที่มีรายได้ในประเทศไทย แต่กรมสรรพากรเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มไม่ได้ หากมีกฎหมายใหม่ ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มต่างประเทศต่างๆ ที่ให้บริการและมีรายได้ในไทยต้องมาลงทะเบียนเสียภาษีกับกรมสรรพากร ทำให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้ประกอบการไทย รวมถึงทำให้การเก็บภาษีของประเทศเพิ่มมากขึ้น โดยในประเทศออสเตรเลีย และประเทศเกาหลีใช้ได้ผลมาแล้ว”
ที่มา: Dailynews