เนคเทคเปิดตัวแพลตฟอร์มไอโอทีเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด “NETPIE 2020” เน้นใช้งานง่าย ช่วยตอบโจทย์ผู้ใช้งานด้าน IoT โดยเฉพาะ
เมื่อวานนี้ (20 กุมภาพันธ์ 2563 )ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์เซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว กรุงเทพฯ ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)เปิดตัว NETPIE แพลตฟอร์มไอโอทีเวอร์ชั่นล่าสุดที่พัฒนาขึ้น เพื่อลดภาระและตอบโจทย์ผู้ใช้งานด้าน IoT โดยเฉพาะ โดยช่วยให้การพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือระบบ IoT ใด ๆ ก็ตามเป็นเรื่องง่าย ตั้งแต่ขั้นตอนการสร้างต้นแบบ การพัฒนาระบบเพื่อการใช้งานเชิงพาณิชย์ ไปจนถึงการดูแลรักษา และตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานเชิงพาณิชย์อย่างเต็มรูปแบบ
ดร.ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการ เนคเทค กล่าวว่า เนคเทคเปิดตัว NETPIE หรือ แพลตฟอร์มสื่อสารเพื่อเชื่อมต่อทุกสรรพสิ่ง ผลงานวิจัยของเนคเทคครั้งแรกเมื่อ 5ปีที่ผ่านมา โดยมีกลุ่มเป้าหมายในระยะแรกคือนักเรียน นักศึกษา นักพัฒนาและกลุ่มอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมของไทย
ทั้งนี้แพลตฟอร์ม NETPIE IoT ตั้งเป้าเป็นฐานรากสำคัญของการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศ สู่ Industry 4.0 พร้อมการพัฒนาบุคลากรเสริมแกร่งทักษะรองรับการเติบโตของเทคโนโลยี IoT เพื่อนำไปสู่การพัฒนานวัตกรรมและบริการแห่งอนาคต นับแต่นั้นมาแนวโน้มการนำ NETPIE ไปใช้ประโยชน์ได้พัฒนาไปในทิศทางที่ก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในด้านการศึกษาและเศรษฐกิจ ซึ่งในปี 2561 ได้มีการยกระดับจากห้องวิจัย ไปสู่การให้บริการเชิงพาณิชย์อย่างเต็มรูปแบบ โดยส่วนหนึ่งของทีมวิจัยและพัฒนา NETPIE ได้ก้าวออกจากเนคเทค – สวทช. และร่วมกันก่อตั้งบริษัท เน็กซ์พาย จำกัด ขึ้น เพื่อให้บริการเชิงพาณิชย์ ภายใต้การอนุญาตให้ใช้สิทธิ (Licensing) แพลตฟอร์ม NETPIE IoT จากเนคเทค – สวทช. ในขณะเดียวกัน NETPIE ยังคงเปิดให้ใช้บริการฟรีมาอย่างต่อเนื่องสำหรับนักเรียน นักศึกษา นักพัฒนา และอุตสาหกรรม SME ภายใต้การสนับสนุนจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช.
“จากวันที่เริ่มเปิดให้บริการสาธารณะจนถึงวันนี้ เนคเทค-สวทช. และ บริษัท เน็กซ์พาย จำกัด ยังคงร่วมกันพัฒนาแพลตฟอร์ม NETPIE อย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อตอบสนองต่อการเติบโตของเทคโนโลยี IoT และการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมสู่ Industry 4.0 พร้อมรองรับจำนวนผู้ใช้งานเชิงพาณิชย์ที่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง วันนี้เนคเทค-สวทช. พร้อมแล้วที่จะเปิดตัว “NETPIE 2020” เวอร์ชันใหม่ล่าสุดของ NETPIE ที่จะมาทลายทุกข้อจำกัด ด้วยคุณสมบัติที่พัฒนาขึ้น เพื่อลดภาระและตอบโจทย์ผู้ใช้งานด้าน IoT โดยเฉพาะ ช่วยให้การพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือระบบ IoT ใด ๆ ก็ตามเป็นเรื่องง่าย ตั้งแต่ขั้นตอนการสร้างต้นแบบ การพัฒนาระบบเพื่อการใช้งานเชิงพาณิชย์ ไปจนถึงการดูแลรักษา ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานเชิงพาณิชย์อย่างเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ใช้งานภาคอุตสาหกรรม NETPIE 2020 ภายใต้สถาปัตยกรรมที่ได้รับการออกแบบใหม่ มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่น่าสนใจมากมาย” ดร.ชัย กล่าว
ด้านดร.พนิตา พงษ์ไพบูลย์ รองผู้อำนวยการเนคเทค-สวทช. กล่าวว่า 5 ปีที่ผ่านมาแพลตฟอร์ม NETPIE มีผู้ลงทะเบียนใช้งาน 4 หมื่นกว่าราย และมีอุปกรณ์ในการเชื่อมต่อกว่า 1 แสนชิ้น ซึ่งถือว่าต่ำกว่าเป้าที่เคยตั้งไว้ว่าภายใน 3 ปีจะมีอุปกรณ์ในการเชื่อมต่อถึง 1 ล้านชิ้น ทีมวิจัยจึงกลับมาวิเคราะห์ถึงปัญหาและข้อจำกัดต่าง ๆ ก่อนที่จะพัฒนาออกมาเป็นเวอร์ชั่นล่าสุด คือ NETPIE 2020 ซึ่งมีคุณสมบัติที่โดดเด่นยิ่งขึ้นกว่าเดิม คือการออกแบบโดยคำนึงถึง User Experience เป็นหลัก ช่วยให้เรียนรู้ใช้งานได้อย่างรวดเร็ว เน้นการใช้งานง่ายทั้งมือใหม่และมือโปร มีการออกแบบสถาปัตยกรรมใหม่ทั้งหมด บนพื้นฐานเทคโนโลยี Microservice ทำให้แพลตฟอร์มมีความยืดหยุ่นรองรับการขยายตัวแบบไร้ขีดจำกัด ทั้งในแง่การเพิ่มบริการใหม่ๆ เข้าไปได้แบบไร้รอยต่อและไม่กระทบกับบริการที่มีอยู่เดิม และในแง่การขยายตัวเพื่อรองรับจำนวนอุปกรณ์หรือปริมาณข้อมูลมหาศาลในยุค AI และ 5G
นอกจากนี้ NETPIE 2020 ยังสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์และไมโครคอนโทรลเลอร์ได้หลากหลายมากขึ้น และสนับสนุนเขียนโปรแกรมด้วยภาษาคอมพิวเตอร์ที่หลากหลาย ทำให้รองรับฮาร์ดแวร์ใหม่ๆ ในตลาดได้อย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ NETPIE 2020 อำนวยความสะดวกในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ IoT เชิงพาณิชย์ หรือการผลิตอุปกรณ์ IoT จำนวนมาก ผู้พัฒนาหรือผู้ประกอบการ สามารถจัดการสิทธิ์ จัดกลุ่ม ลงทะเบียนความเป็นเจ้าของอุปกรณ์ได้ภายหลังการขาย และมีระบบจัดการข้อมูลที่ครอบคลุม ช่วยให้การพัฒนาแอพพลิเคชันโต้ตอบกับอุปกรณ์ทำได้ง่ายยิ่งขึ้น เช่น บริการ Dashboard บริการกำหนดเงื่อนไขการแจ้งเตือนไปยังช่องทางต่างๆ บริการเก็บสถานะและข้อมูลของแต่ละอุปกรณ์
ดร.พนิตา กล่าวว่า อย่างไรก็ดี NETPIE 2020 ยังคงเป็นแพลตฟอร์มที่ให้บริการฟรีกับนักเรียน นักศึกษา รวมถึงเมกเกอร์ต่าง ๆ เพื่อเป็นเครื่องมือในการฝึกฝนทักษะและความคิดสร้างสรรค์ ในสร้างนวัตกรรมและนวัตกรให้กับประเทศ รวมถึงผลักดัน Makers Nation ไปสู่การเป็น Smart Nation ในอนาคตอันใกล้ ผู้สนใจสามารถเข้าไปใช้งานและศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://netpie.io
ที่มา : dailynews.co.th