เหตุเพลิงไหม้ท่าเรือแหลมฉบัง สรท.ชี้ไม่กระทบการส่งออกสินค้า

เหตุเพลิงไหม้ตู้สินค้าอันตรายในท่าเรือแหลมฉบัง สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) ชี้ไม่กระทบการส่งออก เหตุไม่ได้ส่งออกสินค้าตรงท่าเรือที่เกิดเหตุ ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ชี้ระงับเหตุเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

วันที่ 29 สิงหาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางท่าเรือแหลมฉบัง ได้จัดการแถลงข่าว เพื่อรายงานสถานการณ์เหตุเพลิงไหม้ตู้สินค้าอันตราย หมายเลข TLLU2697694 Class 5.2 UN 3106 ณ บริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) โดยมี นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นายวรจักร สถาพรภิญโญ นายอำเภอศรีราชา พร้อมด้วย เรือเอก กานต์ เมนะรุจิ ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง นางจินดา ถนอมรอด นายกเทศบาลนครแหลมฉบัง และนายวีรชาติ พุทธรักษา ผู้ช่วยผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบังร่วมแถลงข่าว ณ ห้องประชุม 1 อาคารบริหารท่าเรือแหลมฉบัง
โดยนายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี แจ้งว่าสถานการณ์ดังกล่าว ได้มีการระงับเหตุเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และมีความเป็นห่วงผู้ฏิบัติงานในพื้นที่ รวมถึงประชาชนที่อาศัยโดยรอบท่าเรือแหลมฉบัง รวมทั้ง ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างทันท่วงที

เรือเอก กานต์ เมนะรุจิ ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง กล่าวว่า เบื้องต้น ท่าเรือแหลมฉบัง ร่วมกับ บริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) จัดเจ้าหน้าที่เข้าเผชิญเหตุสถานการณ์เหตุเพลิงไหม้ตู้คอนเทนเนอร์ โดยใช้เวลาในการระงับเหตุ เวลาประมาณ 30 นาที จึงสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ และได้ดำเนินการการฉีดน้ำหล่อเลี้ยง เพื่อลดอุณหภูมิ รวมทั้งจัดเตรียมสถานที่ เพื่ออพยพผู้ที่อยู่ใกล้พื้นที่เกิดเหตุ ย้ายมายังหอบังคับการพัฒนาแหลมฉบัง และจัดพนักงานดูแลผู้อพยพ ในการจัดเตรียมอาหาร และน้ำดื่ม เพื่อดูแลผู้อพยพอย่างใกล้ชิด

จากเหตุการณ์ดังกล่าว ผู้มีอาการแสบตา และอาการระคายเคือง จำนวน 20 คน ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลในเขตพื้นที่อำเภอศรีราชา มีรายละเอียดดังนี้
1.โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา จำนวน 2 คน
2.โรงพยาบาลวิภารามแหลมฉบัง จำนวน 18 คน

ต่อมาเวลา 15.00 น. ท่าเรือแหลมฉบัง จึงได้ประกาศยุติการปฏิบัติการ และท่าเรือแหลมฉบังให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สามารถดำเนินการปฏิบัติงานได้ตามปกติ เนื่องจากสถานการณ์สามารถควบคุมได้เป็นที่เรียบร้อย

ทั้งนี้ ท่าเรือแหลมฉบัง ขอขอบคุณหน่วยงานต่างๆ ที่เข้าช่วยสนับสนุนการเผชิญเหตุ มีหน่วยงานดังนี้ บริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) ดับเพลิงท่าเรือแหลมฉบัง ดับเพลิงเทศบาลนครแหลมฉบัง ดับเพลิงเทศบาลเจ้าพระยาสุรศักดิ๋ ดับเพลิงเทศบาลเมืองพัทยา ดับเพลิงตำบลบางละมุง และดับเพลิงเทศบาลเมืองศรีราชา ที่จัดส่งเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานเข้าสนับสนุนการเผชิญเหตุ

สรท.ยันไม่กระทบส่งออกสินค้า

นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย หรือ สรท.  เปิดเผยว่า  จากกรณีที่เกิดขึ้น ได้มีการติดตามสถานการณ์รวมไปถึงสอบถามสมาชิกแล้ว ไม่ได้รับผลกระทบ หรือได้รับความเสียหาย ทั้งการขนส่งสินค้าขาส่งออก รวมไปถึงสินค้าในท่าเรือ โดยผู้ส่งออกใช้ท่าเรือ D ในการขนส่งสินค้าออกเป็นส่วนใหญ่ ส่วนท่าที่มีปัญหา คือ ท่า A0 ดังนั้น การส่งออกยังเป็นปกติ

ที่มา>>>https://www.prachachat.net/economy/news-1381608